วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ดอกพุด



การปลูกและดูแลรักษา พุดซ้อน เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจัด ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ 
การปลูก นิยมปลูกในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ชนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก ถ้าปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรืออาคาร ควรปลูกให้มีระยะหย่างที่เหมาะ สม เพราะพุดเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่ 
การดูแลรักษา 
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง 
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง 
ดิน ชอบดินร่วนซุย 
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2 -.3 กิโลกรัม / ต้น ควรใส่อย่างน้อยปีละ 2 - 3 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้ง 
การขยายพันธ์ การเพาะเมล็ด 
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติได้ดี 
แมลง เพลี้ยหอย 
อาการ ใบสีเหลือง จะเห็นกลุ่มเพลี้ยสีขาวเกาะอยู่ตามซอกใบ หรือโคนใบ จะทำให้ใบเหี่ยวร่วงในต่อมา 
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก กำจัดมดที่เป็นพาหะแพร่ระบาดด้วยยาเช่นเดียวกับการกำจัด 
การกำจัด ใช้ยาไซกอน, ไดอาชินอน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก 
ลักษณะ 
ต้น : เป็นไม้ต้นหรือพุ่มกลม แตกกิ่งมาก สูง 1-5 เมตร ลำต้นแก่มีสีเทามีน้ำยางใส 
ใบ : ใบเดี่ยว รูปใบหอกกลับใบหนาเป็นมันสีเขียวเข้มใบเรียงตัวบนกิ่งเป็นแบบคู่ตรงข้าม 
ดอก : ออกดอกเดี่ยวๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง และดอกซ้อน ดอกพุดซ้อนมีสีขาว กลีบเลี้ยงเป็นสีเหลือง ออกดอกตลอดปี กลิ่นแรงตั้งแต่เย็นถึงเช้าวันรุ่งขึ้น 
ผล : ปลายผลจะแหลมและโค้ง เมื่อผลแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก 
เมล็ด : จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด/ ผล 
การกระจายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ในประเทศไทย มีอยู่มากทางภาคเหนือ 
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่งกิ่งตอนที่ยาวไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร จะออกรากง่ายโตเร็ว

ที่มา  :  https://sites.google.com/site/dxkphuthth/home/kar-pluk-laea-dulae-raksa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น