การปลูก นิยมปลูกในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ชนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก ถ้าปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรืออาคาร ควรปลูกให้มีระยะหย่างที่เหมาะ สม เพราะพุดเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2 -.3 กิโลกรัม / ต้น ควรใส่อย่างน้อยปีละ 2 - 3 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธ์ การเพาะเมล็ด
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติได้ดี
แมลง เพลี้ยหอย
อาการ ใบสีเหลือง จะเห็นกลุ่มเพลี้ยสีขาวเกาะอยู่ตามซอกใบ หรือโคนใบ จะทำให้ใบเหี่ยวร่วงในต่อมา
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก กำจัดมดที่เป็นพาหะแพร่ระบาดด้วยยาเช่นเดียวกับการกำจัด
การกำจัด ใช้ยาไซกอน, ไดอาชินอน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
ลักษณะ
ต้น : เป็นไม้ต้นหรือพุ่มกลม แตกกิ่งมาก สูง 1-5 เมตร ลำต้นแก่มีสีเทามีน้ำยางใส
ใบ : ใบเดี่ยว รูปใบหอกกลับใบหนาเป็นมันสีเขียวเข้มใบเรียงตัวบนกิ่งเป็นแบบคู่ตรงข้าม
ดอก : ออกดอกเดี่ยวๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง และดอกซ้อน ดอกพุดซ้อนมีสีขาว กลีบเลี้ยงเป็นสีเหลือง ออกดอกตลอดปี กลิ่นแรงตั้งแต่เย็นถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
ผล : ปลายผลจะแหลมและโค้ง เมื่อผลแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก
เมล็ด : จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด/ ผล
การกระจายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ในประเทศไทย มีอยู่มากทางภาคเหนือ
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่งกิ่งตอนที่ยาวไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร จะออกรากง่ายโตเร็ว
ที่มา : https://sites.google.com/site/dxkphuthth/home/kar-pluk-laea-dulae-raksa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น