การปลูกมะลิ
มะลิเป็นพรรณไม้ยืนต้น และเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก
จนถึงขนาดกลางบางชนิดก็มีลำต้นแบบเถาเลื้อย ลำต้นมีความสูงประมาณ1-3 เมตร
ผิวเปลือกลำต้นสีขาวมีสะเก็ดรอยแตกเล็กน้อย ลำต้นเล็กกลมแตกกิ่งก้านสาขาไปรอบ ๆ
ลำต้น ใบเป็นใบเดียวแตกใบเรียงกันเป็นคู่ ๆ ตามก้านและกิ่งลักษณะของใบมนป้อม
โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 2-3
เซนติเมตร
ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ออกตามส่วนยอดหรือตามง่ามใบ
ดอกเล็กสีขาวมีกลีบดอกประมาณ 6-8 กลีบ
เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ขนาดดอกบานเต็มที่ประมาณ 2-3
เซนติเมตรผลเป็นรูปกลมรีเล็กเมื่อสุกจะมีสีดำภายในมีเมล็ดอยู่1เมล็ดนอกจากนี้ลักษณะของลำต้นและดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูก
- ดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดี
- มีความเป็นกรด-ด่าง
5.5-6.5
- มีอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารสมบูรณ์
- ได้รับแสงแดดเต็มที่เพื่อให้มีดอกดก
การขยายพันธุ์ :การขยายพันธุ์ที่นิยมกันมากที่สุดคือ การปักชำ
1.) เตรียมวัสดุเพาะชำ ทรายผสมขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1
บรรจุในภาชนะ
แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
2.) เตรียมกิ่งพันธุ์
กิ่งที่ใช้เป็นกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ตัดให้มีความยาวของกิ่ง 4 นิ้ว
หรือมีข้ออย่างน้อย 3 ข้อ การตัดกิ่งควรตัดให้ชิดข้อ ริดใบส่วนล่างออก
3.) นำกิ่งมะลิปักชำลงในแปลงชำ
ให้มีระยะระหว่างแถวและกิ่ง 2x2 นิ้ว รดน้ำและสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา
รักษาความชื้นให้เหมาะสมและคงที่
4.) หลังจากกิ่งปักชำออกรากแล้วให้ย้ายลงปลูกในถุงขนาด
2x3 นิ้ว โดยใส่ดิน+ขุยมะพร้าว+ปุ๋ยคอก อัตรา 3:1:1 จนต้นมะลิแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก
การปลูก
-
นิยมปลูกในช่วงฤดูฝน เดือน มิถุนายน-กรกฎาคม
- ขุดหลุมลึก
กว้าง และยาวด้านละ 50 ซม.
- ใส่ปุ๋ยคอกและวัสดุอื่น
ๆ ในอัตราส่วน 1:1:1 พร้อมทั้งเติมปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต (0-46-0) และปุ๋ยผสมสูตร
15-15-15 อย่างละ 1 กำมือ คลุกให้เข้ากัน แล้วใส่กลับลงไปในหลุมใหม่ ทิ้งไว้ 7-10 วัน
จึงนำต้นมะลิลงปลูก
การดูแลรักษา
- การให้น้ำ
มะลิต้องการน้ำปานกลาง ทั้งนี้อาจให้น้ำวันละ 1-2 ครั้ง
ระวังอย่าให้น้ำขัง
- การใส่ปุ๋ย ให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15
อัตรา
1-3 ช้อนแกงต่อต้น ขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่ม ใส่เดือนละครั้ง
โดยหว่านและรดน้ำตาม
- การตัดแต่ง
ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งรวมทั้งตัดกิ่งที่แห้งตายออกด้วย เพื่อลดโรคและแมลง
โรคและแมลงศัตรูสำคัญที่ต้องระวัง
- โรครากเน่า
- โรคแอนแทรกโนส
- โรครากปม
- หนอนเจาะดอก
หนอนกินใบ
- หนอนเจาะลำต้น เพลี้ยไฟ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น